[OS] เสื้อบาส {BNior}

Title : เสื้อบาส

Rate : PG15

Couple : แจบอม&จินยอง // BNior

Code : 9494

แปะ…แปะ…แปะ
เสียงของหยดน้ำไหลลงกระทบพื้นไม้ปาเก้ในโรงยิมของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ริมฝีปากอิ่มสีซีดจากความหนาวและเปียกชื้นจากสายฝนที่โหมกระหน่ำตั้งแต่ช่วงเช้า เหล่านักล่ากำลังจ้องมองกระต่ายน้อยตัวเปียก จนชุดนักเรียนสีขาวบางแนบไปกับร่างอรชร เผยให้เห็นสัดส่วนชัดเจน กางเกงนักเรียนสีดำลู่ไปกับเรียวขายาว ดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่นที่มีหยดย้ำเกาะพร่างพราว… ทุกอย่างในตัว ปาร์คจินยอง ตอนนี้โคตรน่า…

ปึง!!

เสียงกระทบของลูกบาสกับพื้น ทำให้นักล่าหลุดจากภวังค์และหันมาสนใจต้นเหตุของเสียงแทน พร้อมกับจับสัมผัสได้ถึงรังสีเย็นๆ จากหัวหน้าทีม…

อิมแจบอม

ดวงตาเรียวเล็กทรงเสน่ห์ที่มีไฝสองจุดเล็กๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กำลังจ้องมองกระต่ายน้อยเปียกน้ำด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้ พร้อมกับส่งสายตาเย็นๆ ไปยังเหล่านักล่าที่กำลังมองดู กระต่ายน้อยของเขา
ใช่… ปาร์คจินยองเป็นกระต่ายน้อยของอิมแจบอม กระต่ายของเขาคนเดียว

หมับ!! มือหนาจับเข้าที่ข้อมือเล็กกระชากให้คนที่โดนจับเดินตามมา จินยองเซไปตามแรงกระชาก ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองใคร…ตอนนี้จินยองสัมผัสได้ว่าแจบอมไม่พอใจ ไม่พอใจมากๆ… แต่จินยองก็ยังไม่รู้ว่าแจบอมไม่พอใจเรื่องอะไร หรือจะไม่พอใจที่เขามาหา…แต่ว่าแจบอมเป็นคนบอกให้จินยองมาหาเองนะ ถึงแม้ว่าจะมาก่อนเวลา ก็อยากเจอแจบอมนานๆ นี่นา

จินยองก็มาตามที่แจบอมบอกแล้วแจบอมเป็นอะไร

อิมแจบอมกระแทกประดูปิดดังปัง! ทำเอานักล่าที่มองกระต่ายตาละห้อยสะดุ้งกันเป็นแถบๆ จินยองเองก็ตกใจมากเหมือนกัน แจบอมตอนนี้น่ากลัวน้อยสะที่ไหน เสียงฟันกระทบกันดัง กึกกึก ทำให้อิมแจบอมหันมามองหนาปาร์คจินยอง สายตาเจ้าเล่ห์ยามอยู่กันสองคนปรากฎออกมาให้เห็น… จินยองไม่กล้าสบตาแจบอมเลย

“ถอดเสื้อผ้าที่เปียกออกให้หมด เดี๋ยวนี้” เสียงทุ้มเอ่ยพูดขึ้นเป็นประโยคแรกตั้งแต่เจอหน้ากัน

“…” ไม่มีคำตอบ ปาร์คจินยองกำชายเสื้อไว้แน่น ปลดกระดุมออกทีละเม็ด… ทีละเม็ด จนหมด เรือนกายขาวนวลปรากฎขึ้นต่อหน้าอิมแจบอมทันทีที่เสื้อนักเรียนขาวบางหลุดออกจากลาดไหล่..

แจบอมหายใจติดขัดเป็นระยะ ค่อยๆ ไล่สายตามองดูร่างบาง ตั้งใบหน้าหวานๆ ที่ไม่ยอมสบตา ลาดไหล่แคบๆ หน้าอก… หน้าท้องราบเรียบ .. และมือบางที่กำลังถอดเข็มขัดออก… กางเกงนักเรียนขายาวสีดำร่วงหล่นไปตามแรงโน้มถ่วงเผยให้เห็นช่วงขาเรียว… ขาว… น่าสัมผัส ดูนุ่มนิ่มไปทั้งตัว

พึ่บ!

ผ้าขนหนูสีเข้มถูกส่งมาให้คนที่กึ่งเปลือย จินยองค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา… แจบอมกำลังหันหลังให้เค้า… จินยองอมยิ้มน้อยๆ ให้กับสิ่งที่เห็น ถึงแจบอมจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่แจบอมก็ยังคงไม่ล่วงเกินเขาอย่างที่ทำมาเสมอ… จินยองค่อยๆ ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำออกจากร่างกาย พันผ้าขนหนูไว้แล้วถอดอันเดอร์แวร์ขาสั้นสีเทาออกจากร่างกาย แล้วหันไปสะกิดแจบอม

“แจบอม.. จินยองถอดหมดแล้วนะ” เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงหวานๆ แจบอมแทบจะอดใจไม่ไหว หันกลับไปกอดอีกคนให้จมอก

“ขอโทษที่พาล แต่แม่งไม่ชอบ เข้าใจป่ะ?” จินยองยกแขนขึ้นกอดตอบรอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นมา

“แจบอมไม่ชอบอะไรหรอ? บอกจินยองได้ไหม” อ้อมกอดอุ่นคลายออก แจบอมดันตัวออกมาเผชิญหน้ากับจินยอง

“กูไม่ชอบที่พวกมันมอง แม่ง มองอย่างกับจะแดก” ตาเรียวเล็กสบกับดวงตากลมโต

“…”

“กูไม่ชอบที่พวกมันมองคนของกูในสภาพแบบนี้จินยองรู้ไหม สภาพตอนนี้ น่าเอา แค่ไหน?”

“…”

“มาทำหน้ายั่วใส่กูอีก”

ปาร์คจินยองกำลังทำตัวไม่ถูก เมื่อได้ยินคำพูดจากผู้ชายปากร้ายอย่างแจบอม …น่าเอา… คำคำนี้ทำให้จินยองหน้าแดงหูแดงเข้าไปใหญ่

แจบอม คนบ้า!

พึ่บ! แจบอมยัดเสื้อผ้าใส่มือจินยอง

“เอาไปเปลี่ยน กูไม่มองหรอก” พูดเสร็จแจบอมก็หันหลังไป จินยองมองดูเสื้อผ้าในมือแอบยิ้มนิดหน่อย

JB 94

นี่มันเสื้อบาสของแจบอม งือออ ใส่ชุดของแจบอม งือออ มีกลิ่นของแจบอมด้วย งืออออ จินยองครวญครางในใจ มือเล็กๆ ค่อยๆ หยิบเสื้อขึ้นมาใส่ สังเกตเห็นอะไรสักอย่างสีเข้มๆ

“แจบอม!!!” พอหยิบขึ้นมาดูจินยองหน้าแดงหูแดงยิ่งกว่าเดิม แจบอมหันกลับมามองจินยอง… มือของจินยองถืออันเดอร์แวร์สีเข้มของเขาไว้ จินยองหลับตาปี๋

โคตรน่ารักเลยแม่ง

“หึหึ ก็ถอดออกหมดไม่ใช่รึไง เอาของกูไปใส่นี่แหละ เดี๋ยวลมมันเย็น”

“แต่ว่ามัน มัน..” จะให้พูดยังไงอะมันกางเกงในของแจบอมอะ ฮืออ

“มันทำไม?”

“ก็มัน… งืออออ แจบอมอ่า” จินยองสบตากับแจบอม หารู้ไม่ว่าทำหน้าทำตาแบบนั้น.. มันโคตรของโคตรยั่วเลย อึก!.. แจบอมลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่จินยอง

“จะใส่เองหรือว่า… ให้กูใส่ให้? นับหนึ่งถึงสามไม่ตอบคือกูใส่ให้ หนึ่ง..”

“จินยองจะใส่เอง!!…แจบอมคนบ้า” เสียงหัวเราะ หึหึ ของแจบอมยังดังไม่หยุด จินยองรีบใส่อันเดอร์แวร์ตามด้วยกางเกงบาส แล้วปลดผ้าขนหนูออก

“สะ เสร็จแล้ว ออกไปได้ยัง?” จินยองเอ่ยถามแจบอมเสียงสั่นๆ เพราะมองแววตาจินยองตอนนี้แล้ว… จินยองรู้สึกแปลกๆ… ใจมันสั่นมากกว่าปกติ แจบอมเดินเข้าหาจินยองช้าๆ แล้วดันจินยองติดกับลอคเกอร์… ยกมือขึ้นประกบ กักตัวจินยองไว้ในอ้อมแขน เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาชิดริมใบหูสีแดง

“ทุกอย่างบนตัวมึงตอนนี้ เป็นของกูจำไว้จินยอง มึงเป็นของกู” ริมฝีปากหนาประกบลงบนปากอวบอิ่มเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มจังหวะให้หนักขึ้น.. แจบอมผละออกช้าๆ กระซิบบอกจินยองชิดปากอิ่มตึง

“คราวหลังอย่าฝ่าฝนมาหากู อย่าเปียกแบบนี้มาหากูที่ยิม กูหวง”

“อื้อ” จินยองตอบรับในลำคอ
.

.
ฝนหยุดตกแล้วทำให้ได้ยินเสียงคุยกันจ้อกแจ้กทั่วไปดังขึ้นมา ก่อนทุกเสียงจะเงียบลงเพราะแจบอมผลักประตูออกมากระทบผนังเสียงดัง ทุกสายตาจับจ้องไปยังสองคนที่ออกมาพร้อมกันจินยองในชุดบาสแม่งโคตรน่ารัก แจบอมตวัดสายตาขึ้นมามองทุกคนเป็นสายที่ประกาศว่า… อย่ายุ่งกับคนของกู

“นั่งตรงนี้ห้ามไปไหน ถ้าไม่มีอะไรทำเอาโทรศัพท์กูไปเล่น” จินยองพยักหน้ารับหงึกหงึก

ฟอด ~ 
แจบอมหอมแก้มกลมๆ ก่อนจะไปซ้อมต่อ

จินยองนั่งอึ้ง กวาดสายตามองไปรอบๆ…ก่อนที่จะก้มหน้าลงแล้วเอาโทรศัพท์แจบอมมาเล่น จะไม่ก้มได้ไง ก็ตอนนี้ทุกคนมองหน้าจินยองหมดเลยอ่า แจบอมบ้า

“เหยดเข้ ไอ้บี น้องแว่นเอ็กซ์สัด” หวังแจ็คสัน พูดขึ้นมาพร้อมกับสายตาที่จ้องมองไปที่จินยองอย่างเปิดเผย

ผัวะ
!! เสียงฝ่ามือกระทบกับหน้าผาก

“โอ้ย ไอ่บีทำเหี้ยไรมึงเนี่ย เจ็บนะเว้ย” แจ็คสันยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง

“ไอ่เหี้ยแจ็ค กูไม่จิ้มตามึงก็บุญหัวมึงแล้ว อย่ามองของกู”

“ใส่ชุดเว้ามาขนาดนั้นขากางเกงก็กว้าง ไม่ให้มองได้ไงวะ ขาวชิบหาย” เสียงของแจ็คสันดังก้องอยู่ในหัวของแจบอม แจบอมหันไปมองจินยองทันทีที่แจ็คสันพูดจบ กระต่ายน้อยกำลังนั่งชันเข่าเล่นเกมแขนทั้งสองข้างวางที่เข่า…

‘ใส่ชุดเว้ามาขนาดนั้นขากางเกงก็กว้าง ไม่ให้มองได้ไงวะ ขาวชิบหาย’


ขาว ชิบ หาย

ท่านั่งแบบนั้นมันทำให้มองเห็นขาอ่อนด้านล่างและลำตัวด้านข้าง แจบอมกวาดสายตาไปรอบๆ ก็พบว่า ลูกทีมของเขากำลังจ้องมองผิวขาวของกระต่ายน้อย..

ใครจะไปยอมวะ!!

“ไอ่แจ็ค เอายางมัดผมมาดิ เอามาเยอะๆ”

“มึงเอาไปทำเชี่ยไรครับ กูไม่ให้” แจบอมมองด้วยสายตาดุๆ ก่อนจะเดินเข้าไปค้นกระเป๋าแจ็คสันเอง

“เห้ยๆ ไอ่บี หยุดๆ กูให้ละๆ” แจ็คสันหยิบหนังยางส่งให้แจบอมเป็นกำ
(ไม่ต้องงงครับ แจ็คสันมีเยอะเอาไว้มัดผมหน้าม้าตอนซ้อมครับ แจ็คไม่ตุ๊ดนะครับ)

“ไอ่บี มึงเอาไปทำไร”

“ไม่เสือกได้ปะ?” หน้าชาเลยครับ แจ็คสันหน้าชา มองตามหลังแจบอมที่ก้าวออกไปทางจินยอง

.

.

ตุบ! แตบอมทิ้งตัวลงนั่งตรงหน้าจินยอง ทำให้ใบหน้าของแจบอมอยู่เสมอกับขาอ่อนของจินยอง…

“จะ แจ แจบอมทำไรอะ?” จินยองทำตัวไม่ถูก ลมหายใจร้อนๆ ของแจบอมมันเป่ารดอยู่ตรงหน้าแข้งเนี่ย

“อยู่ท่านี้นิ่งๆ ห้ามโวยวาย มีเสียงกูจะจูบ” มือหนารวบเข้าที่ขากางเกงแล้วทำการมัดเนื้อผ้ามี่ย้วยลงมาให้เห็นขาอ่อน มักเป็นจุกจนทำให้มองไม่เห็นขาอ่อน และต่อจากนั้นก็ยืนขึ้นทำการมัดเสื้อที่เว้าๆ ให้เห็นตัวบางๆ ข้างใน เป็นจุกสองจุกอยู่บนไหล่ จินยองทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจ มองไปที่แจบอม

“ไม่ต้องมาทำหน้างง มัดไว้แบบนี้อย่าเอาออก”

“มันตลกนะแจบอม เอาออกเลย!”

“เอาออกให้โง่ดิ ใครจะยอมให้คนอื่นมองขาอ่อนมึงวะ ตัวมึงด้วย หวง”

“อย่าเอาออกนะจินยอง แจบอมหวง” พูดเพียงแค่นั้น แจบอมก็หันกลับไปที่เดิมแล้วเริ่มซ้อม ปล่อยให้จินยองนั่งทำตัวไม่ถูก ตัวจะระเบิดอยู่ตรงนั้น

แจบอมหวง

แจบอมหวง

แจบอมหวง

แจบอมพูดเพราะ น่ารัก งืออ จินยองเขิน งืออ แจบอมน่ารักกกก
.

.

.
ระหว่างซ้อม แจ็คสันเดินเข้าไปหาแจบอม

“กูก็ว่าเอาหยังยางไปทำอะไร ที่แท้ก็เอาไปมัดไม่ให้ใครมองขาอ่อนนี่หว่า ทีเมื่อก่อนไม่เห็นจะสนเค้า ทำร้ายจิตใจเค้าสารพัด รู้งี้กูจีบน้องแว่นก็ดี คนไรแม่งโคตรน่ารัก”

ปึก! เสียงลูกบาสกระทบเข้าที่ไหล่แจ็คสันเต็มๆ

ตอนนี้ผมคงต้องหยุดพูดก่อนที่ผมจะโดนไอ้แจบอมกระทืบเอาครับ คนอะไรไม่รู้ โคตรซึน โคตรขี้หวง

“ไอ่แจ็คมาซ้อม ไอ่สัส”

เสียงแจบอมตะโกนเรียกไปซ้อมละครับ ผมไปก่อนนะครับ เอาไว้เจอกันใหม่
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ
End

 

[01] เด็กแว่น {KhunWoo} 20%

Pairing: KhunWoo
Rate: PG-13

.

.

.

.

ผมคิดถึงเรื่องนั้น… ผมคิดว่า… ผมกำลังตกหลุมรัก… ตัวเล็ก

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องนั้น ภาพของอีกคนที่กำลังตกใจ ภาพที่เขายิ้มจางๆ ให้มันทำให้ผมรู้สึกบ้า ผมกำลังบ้า

ถ้าวันนั้นแทคยอนไม่เข้ามาสะก่อน ผมคิดว่าปากเล็กๆ นั่น มันต้องเป็นของผม อ่า… ผมกำลังคิดอยากจะแตะริมฝีปากนั่น ริมฝีปากของจางอูยอง

.

.

.

อ๊คแทคยอน ประธานสภานักเรียนตอนนี้กำลังอึ้งกับภาพข้างหน้า นิชคุณกำลังคร่อมเด็กแก้มบวม…

คิดจะทำอะไรให้ห้องกัน อ๊คเครียดดด

หลังจากได้ยินเสียงประตูเปิด พร้อมกับเสียงเรียก “ไอ่คุณ” สติของทั้งคู่ก็กลับคืนมา คนตัวเล็กก้มหน้าลงทันที ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อ ส่วนอีกคนกลับหันไปมองหน้าเพื่อน ฉายแววตาไม่พอใจเล็กน้อยให้

“แทคยอน ออกไปก่อน กูทำธุระอยู่”

“ไอ่คุณธุระมึงนี่ เฮ้ยๆ!!”  ยังไม่ทันพูดจบ นิชคุณก็ลุกขึ้น เดินมาทางแทคยอนแล้วผลักคนตัวโตให้ออกไปหน้าห้อง

“ห้ามใครเข้าจนกว่ากูจะออกไป ขอบใจนะเพื่อน”

ปัง!

‘เสียงปิดประตูดังกระแทกเข้าหน้าอ๊คเลยครับ ห้ามใครเข้าจนกว่าจะออกไป… อ๊คเครียดดดด’

อูยองตกใจนิดๆ กับเสียงปิดประตู ก่อนที่จะได้ยินเสียงกดล็อค

กริ่ก…

เขาจะทำอะไร มันต้องไม่ดีแน่ๆ ต้องหนี

ร่างกายไวกว่าความคิด อูยองรีบลูกขึ้นวิ่งไปทางที่ได้ยินเสียงปิดประตู ถึงแม้จะมองเห็นเพียงแค่แสงสว่างกับภาพลางๆ เขาก็ต้องเอาตัวรอดจากที่นี่ ไปไม่ถึงไหนอูยองก็ชนเข้ากับนิชคุณ เพียงเสี้ยววินาทีที่จะหันหลังกลับไปอีกทาง อ้อมแขนแกร่งกระชับคนตัวเล็กให้เขามาใกล้อีก ตอนนี้แผ่นหลังบางกำลังสัมผัสแนบไปกับด้านหน้าของอีกคน ตรงตำแหน่งหน้าอกด้านซ้ายอูยองสัมผัสได้

ตึกตัก ตึกตัก เสียงของหัวใจตัวเองมันกำลังผิดปกติ

“ขอโทษนะ ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก”

เสียงทุ้มเอ่ยชิดใบหูเล็ก ก่อนจะค่อยๆ คลายอ้อมกอดให้อูยองเป็นอิสระ อูยองหันกลับมาเผชิญหน้ากับอีกคน ถึงแม้จะมองไม่ออกว่าเป็นใคร แต่อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าอีกคนเป็นใคร… รองประธานสภานักเรียน

“เอ่อ คือ คุณ.. คุณจะไม่ทำอะไรผมแน่ๆ ใช่ไหมครับ?”

อูยองเอ่ยถาม ก็กลัวที่จะโดนคนนี้แกล้งอีก… แกล้งทีอูยองรู้สึกเหมือนจะตาย ก็หัวใจมันเต้นเร็วเกินไป มันเต้นจนรู้สึกได้ว่าทำงานผิดปกติ… จางอูยองถูกแกล้งจนเป็นโรคหัวใจ รองประธานทำเขาป่วย

“ก็บอกว่าไม่ทำไง ไม่ต้องกลัว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้ตกใจ”

ดวงตาเรียวเล็กช้อนขึ้นสบตาคนตัวโต ส่งยิ้มบางๆ ให้ เพียงแค่รอยยิ้มนั้นส่งมา ก็ทำให้นิชคุณรู้สึกได้ว่า

‘เขาคงตกหลุมรักเจ้าของรอยยิ้มนั้นเสียแล้ว’

“ครับ”

“หมดคาบเรียนละนี่ เรียนห้องไหนล่ะ เดี๋ยวไปส่ง”

“เอ่อ ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมไปเอง” อูยองตอบกลับอ้อมแอ้มด้วยความเกรงใจ

“แว่นหักแล้ว มองเห็นหรอ? ” ด้วยความอยากแกล้งนิชคุณกระซิบถามข้างใบหูเล็กอีกครั้ง ตอนนี้จางอูยองตัวแข็งทื่อไปหมดแล้ว

“เอ่อ ผะ ผม ” อูยองเอ่ยตอบ เขาไม่ชินที่มีคนมาทำอะไรแบบนี้ หัวใจบ้านี่ก็เต้น ปากบ้าก็ไม่ขยับ

“งั้นฉันไปส่งนะ?”  น้ำเสียงทุ้มถูกส่งผ่านมาอีกครั้งตรงที่เดิม

“คะ ครับ” ทันทีที่ได้คำตอบที่ตัวเองต้องการ นิชคุณก็ผละใบหน้าออกมา ก่อนจะอมยิ้มกับคำตอบที่ได้

“อยู่ห้องไหน?”

“ห้อง 2 ครับ ปี 2 ห้อง 2 ครับ” พูดจบมือเล็กๆ ก็ได้รับความร้อนส่งผ่านมาอีกครั้ง ร้อนจนทำให้อูยองรู้สึกได้ว่า มันทำให้หน้าของเขาร้อนไปหมด

ระหว่างทางเดินในอาคารเรียน ผู้คนเริ่มบางตาลงมากเพราะเป็นเวลาเลิกเรียนของวันนี้ ภาพของเด็กผู้ชายตัวเล็กแก้มกลมที่กำลังก้มหน้าเดินตามแรงจูงของใครอีกคน…คนนั้นก็คือรองประธานสภานักเรียน… ดีกรีเด็กเรียนดีห้องหนึ่ง ติดอันดับหนึ่งในสิบของโรงเรียนทุกปี เป็นนักกีฬาตัวโรงเรียน แถมยังเล่นดนตรีเก่งทุกชนิดอีกต่างหาก… พรุ่งนี้เรื่องของจางอูยองกับนิชคุณคงเป็นหัวข้อหลักในการสนทนาของใครหลายๆ คน

“ถึงห้องของนายแล้ว”

“คะ.. ครับ  เอ่อ” อูยองขานรับตะกุกตะกัก… ตอนนี้อูยองทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะบอกคุณคนนั้นว่าอย่างไรดี ก็มือที่เขากุมไว้…ยังไม่ยอมปล่อยเลย

“โต๊ะอยู่ไหนละ?” พูดไปก็จูงอีกคนเดินตามไปด้วย

“เอ่อ.. คือ คือ” ความอุ่นชื้นที่ฝ่ามือสัมผัสกันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับแรงที่กุมมือ

“อ่า เจอละ” มือหนาหยิบกระเป๋าเป้สีดำขึ้นมาสะพาย

“เอ่อ คุณครับ คือ”

“หืม?”

“ปะ..ปล่อย..ปล่อยมือผมได้แล้วครับ” เสียงหวานเอ่ยบอกสั่นๆ กว่าอีกคนจะขานรับก็เป็นเวลานาน นานสะจนทำใจดวงน้อยกระตุกไม่เป็นจังหวะ

“มือนี้หรอ?”  มือล็กๆ ที่ถูกกอบกุมถูกยกขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาที่ไร้แว่น มองเห็นไม่ชัดแต่สัมผัสร้อนชื้นที่มือนั้นชัดเจน

“ครับ” อูยองก้มหน้าลงตอบอ้อมแอ้ม ไอ้อาการหน้าร้อนๆ เมื่อเห็นมือที่กุมกันไว้มันคืออะไร อูยองไม่เข้าใจ

“ไม่ดีกว่า ถ้าปล่อยเดี๋ยวนายก็เดินชนข้าวของเสียหายกันพอดี” รอยยิ้มขี้แกล้งเผยออกมา

ขอแกล้งคนแก้มกลมนี้อีกสักหน่อย มีโอกาศทั้งทีตอนในห้องเมื่อกี้ก็พลาด ขอใช้โอกาสนี้ให้คุ้มก็แล้วกัน

ใจดวงน้อยที่เต้นไม่เป็นจังหวะกลับมาวูบโหวงอีกครั้งเพียงแค่ได้ยินประโยคของอีกคน เพียงแค่กลัวเขาทำข้าวของเสียหายแค่นั้นเอง…ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย… ใจบ้าก็ดันเต้นไปได้

“ไม่ปล่อยนี่แหละดีแล้ว ฉันไปส่งนายที่บ้านเอง”

“ผมกลับเองได้ครับ เราไม่รู้จักกันสักหน่อย คุณไม่จำเป็น-”

“นิชคุณ” เสียงทุ้มเอ่ยแทรกขึ้นมาทันที “ฉันชื่อนิชคุณ ทีนี้รู้จักกันแล้วนะ ‘จางอูยอง’ ไปส่งได้ยัง”

ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างขึ้นเมื่อนิชคุณพูดจบ

“เร็วดิ ไปส่งได้ยัง” มือใหญ่ๆ เขย่ามือเล็กๆที่กุมไว้ จางอูยองทำตัวไม่ถูกแล้ว… ใจเจ้ากรรมดันเต้นแรงขึ้นมาอีก ไอ่หน้าบ้าก็ร้อนขึ้นมาอีก… นิชคุณทำให้ร่างกายอูยองปั่นป่วน

“…”

“บอกทางไปบ้านนายมาได้แล้ว ถ้าไม่บอก…” ใบหน้าคมเลื่อนมากระซิบที่ใบหูอูยองอีกครั้ง “ก็ไปนอนบ้านฉันนะ”

.
.
.
.

“คุณลูกชิมนี่ดูนะ แม่รับประกันความอร่อย” เสียงของคุณนายจางเอ่ยบอกกับเด็กหนุ่มอีกคนที่นั่งตรงข้ามกับตัวเอง… นิชคุณ

~
ย้อนไปหลังจากที่อีกคนบอกถ้าไม่บอกทางกลับบ้านต้องไปนอนบ้านตัวเอง จางอูยองรีบบอกทางกลับบ้านทันที ตลอดทางไม่มีเสียงพูดคุย มีเพียงสัมผัสจากมือใหญ่ๆ ที่กุมไว้จนชื้นเหงื่อ อูยองเผลอลอบมองใบหน้าคมแบบเบลอๆ จนมารู้ตัวอีกทีก็เหลือเพียงร่องรอยความอุ่นและเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน

“อูยอง กลับมาแล้วหรอลูก” เสียงผู้หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามออกมา ก่อนที่จะตกใจเมื่อเห็นหน้าใครอีกคนที่ไม่คุ้นตายืนอยู่ข้างลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ นิชคุณไม่รอช้า รีบส่งยิ้มหวานให้กับคุณแม่(ยาย)

“สวัสดีครับคุณแม่ ผมชื่อนิชคุณครับเป็นเพื่อนของอูยอง”

คุณนายจางยิ้มกว้างทันที เดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มยกมือขึ้นกุมด้วยความตื้นตัน อูยองลูกชายพาเพื่อนเข้าบ้าน คุณแม่ดีใจ ดีใจมากๆ

“นิคคุณ แม่เรียกแบบนี้ได้ใช่ไหม? แม่ดีใจมากๆ เลยนะ ในที่สุดอูยองของแม่ก็พาเพื่อนมาที่บ้านสักที นึกว่าจะไม่พูดจนไม่มีใครเขาคบแล้วเนี่ย แม่ขอบใจนิคคุณมากๆ ที่เป็นเพื่อนกับอูยอง อุ้ย! แม่ลืมแนะนำตัวไป แม่ชื่อจางจินฮีจ้ะ”

น้ำเสียงตื้นตันของคุณนายจางส่งผ่านมาถึงนิชคุณ คนตัวสูงส่งยิ้มตอบ ภายในสมองกำลังประมวลผลคำพูดของคุณแม่(ยาย) เดี๋ยวต้องหาเวลาคุยกับคุณแม่สักหน่อยแล้ว

“ครับคุณแม่ จะเรียกนิคคุณหรือคุณเฉยๆ ก็ได้ครับ ผมพาอูยองมาส่งครับ” พูดจบก็หันไปมองหน้าอูยองส่งยิ้มบางๆ ให้กับเจ้าของชื่อ อูยองกำลังอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าพูดไม่ออกเพราะอีกคนชิงตัดหน้าคุยกับคุณแม่ของเขาไปแล้ว นิชคุณกำลังจะทำอะไรกันแน่

“นี่ คุณครับมาส่งผมเสร็จแล้วก็กลับไปสิค-”

เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือกระทบเข้ากับมือเล็กๆ ของอูยอง

“แม่ครับ ยองเจ็บนะ ตียองทำไมอ่า”

“อย่าไล่แขกแม่สิ นิคคุณอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันก่อนนะลูก”

มาไม่ทันไรก็กลายเป็นแขกคุณแม่ อีกหน่อยคนเป็นคนโปรด… เห้ย คิดอะไรเนี่ย เขาคงไม่มาบ้านเราอีกเป็นครั้งที่สองหรอก 

อูยองจมอยู่ในความคิดของตัวเองสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมือหนาๆ กุมเข้าที่ข้อมือแล้วลากให้เดินเข้าบ้านไปด้วยกัน

วันนี้คนที่ได้กำไรก็คงไม่พ้นนิชคุณ ได้กุมมือนิ่มๆ ตั้งนาน… คนอะไรมือทั้งนิ่มทั้งเนียน เรื่องกลิ่นไม่รู้รอเจ้าตัวไม่เห็นค่อยพิสูจน์แล้วกัน…

บรรยากาศห้องในห้องครัวตอนนี้ครื้นเครงเป็นพิเศษ เสียงหัวเราะของคุณนายจางดังออกมาเป็นระยะพร้อมกับเสียงหัวเราะทุ้มๆ ของนิชคุณ อูยองนะเหรอ… โดนไล่ออกมาจากห้องครัว เนื่องจากคุณแม่ได้ลูกมือคนใหม่ลูกมือคนเก่าเลยต้องออกมาตามระเบียบ อีกอย่างที่ถูกไล่มาคงไม่พ้นเจ้าตัวแว่นหักทำให้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นนั้นไม่เหมือนเดิม เลยต้องนั่งจมปุกอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวี แต่ไม่ทันได้เบื่อนานเสียงใสๆ ที่ประตูบ้านก็ตังขึ้นมา

“คุณแม่ฮะ พี่ยอง น้องยองกลับมาแล้ววว” เด็กหนุ่มวัยมัธยมต้นสวมแว่นทรงเดียวกับอูยองเดินเข้ามาหาพี่ชายตัวเองที่นั่งจ้องเขม่งหน้าบอกบุญไม่รับ พุ่งตัวเข้ากอดแล้วซุกหน้าลงบนพุงกลมๆ ของพี่ชาย แล้วเงยหน้าขึ้นมอง

“พี่ยอง แว่นหักอีกแล้วหรอ” ตากลมๆ เหมือนลูกแมวของจินยองจ้องมองหน้าของอูยอง

“อืม พี่ซุ่มซ่ามทำตกแล้วเหยียบน่ะ” คนเป็นพี่เลือกที่จะไม่พูดถึงความจริงที่ตัวเองเจอออกไปให้น้องฟัง และไม่เคยพูดถึงเรื่องที่ตัวเองถูกแกล้งให้คนในครอบครัวรับรู้

“ปีนี้พี่ตัดแว่นไปรอบที่สามแล้วนะ รอบนี้จะเป็นรอบสุดท้ายของปีรึป่าวเนี่ย”

“คงจะเป็นรอบสุดท้ายแล้วแหละ ถ้าพี่ไม่ซุ่มซ่ามอีก”

“ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะสดใสของสองพี่น้องดังขึ้นพร้อมกัน พร้อมกับกลิ่นหอมๆ ของอาหารที่ลอยออกมา จินยองรีบไปที่โต๊ะอาหารและไม่ลืมที่จะพาพี่ชายตัวเล็กของเขาไปด้วย

เสียงคุยกันสนุกสนานทำให้อาหารมื้อเย็นของบ้านตระกูลจางไม่เงียบเหงา จินยองดูท่าจะถูกอกถูกใจ “พี่คุณ” ไม่แพ้คุณแม่ ส่วนอูยองก็นั่งกินข้าวเงียบๆ ก็มองกับข้าวไม่เห็นจะให้ทำอย่างไร จินยองก็คุยจ้อกับนิชคุณไม่หยุดแต่ก็ไม่ลืมที่จะตักกับข้าวให้กับพี่ชายตัวเอง มีหลายๆ ครั้งที่จินยองป้อนกับข้าวให้อูยองเป็นภาพที่น่ารักมากๆ ในสายตาของคนมองอย่างนิชคุณ น้องก็น่ารักแต่คนพี่น่ารักมากกว่า ยิ่งเห็นตอนที่ปากบางๆ นั่นงับช้อนของจินยอง มันยิ่งทำให้นิชคุณเตลิดไปไกล…

น่ารักโคตรๆ น่ารักเหี้ยเหี้ยยยย อยากเป็นคนป้อน อยากเป็นช้อน ว่อยยยยยยย
ได้เพียงแต่คร่ำครวญอยู่ในใจ คุณนายจางก็ตักกับข้าวให้ไม่ยอมหยุดชิมนั่นชิมนี่ แล้วมันก็อร่อยทุกอย่าง นิชคุณเลยกินจนอิ่มท้องและมองจนอิ่มใจ… หลังจากที่เสร็จสิ้นมือเย็นนิชคุณอาสาล้างจานด้วยเหตุผลที่ว่า เกรงใจทำมื้อเย็นให้ทานแล้วก็ขอตอบแทนเป็นการล้างจานให้ โดยมีผู้ช่วยคือจินยอง(ว่าที่น้องสะไภ้)

ส่วนอูยอง… นั่งเหงาอยู่ตรงโซฟาที่เดิมฟังคุณแม่บ่นๆ พร้อมกับคำสั่งที่ว่า

“พรุ่งนี้แม่ไม่ว่าง น้องยองก็ไม่ว่าง แม่ขอให้นิคคุณเขาไปส่งตัดแว่นแล้วนะ ห้ามขัดแม่ด้วย!”

ดวงตาเรียวๆ เบิกกว้างขึ้นพร้อมกับคำถามมากมาย แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยปากถามคนที่ล้างจานเสร็จแล้วก็ส่งเสียงออกมาก่อน

“คุณแม่ครับ ผมจะกลับแล้วนะครับ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้อร่อยมากๆ เลยครับ”

“น้องยอง ไปส่งพี่คุณหน่อย พี่ยองก็ไปด้วยนะ”

.
.
มาสามเหลือสองคน… จากคำสั่งของจินฮีที่บอกให้ลูกชายทั้งสองออกมาส่งนิชคุณ เพื่อนคนแรกที่อูยองพาเข้าบ้าน กลายเป็นว่าจินยองหายไปไหนก็ไม่รู้หลังจากก้าวออกมาจากประตูบ้าน เหลือเพียงแค่นิชคุณและจางอูยองที่รั้วสีขาวหน้าบ้าน นิชคุณจับมืออูยองเดินไปด้วยกันและเจ้าตัวเองก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยออกมาแต่จางอูยองมองไม่เห็นมัน นิชคุณหันหลังกลับมามองหน้าคนแก้มอูมที่กำลังขึ้นริ้วสีแดงจางๆ แกล้งอีกสักครั้งก่อนกลับบ้าน ใบหน้าคมโน้มมากระซิบเบาๆ

“พรุ่งนี้เก้าโมงฉันจะมารับนายไปตัดแว่นนะอูยองอ่า~” ก่อนผละออกให้ปลายจมูกเฉียดแก้มนิ่ม


หอม แก้มอูยองหอมมาก อยากหอมจัง



การกระทำไวกว่าความคิด จมูกโด่งฝังลงที่แก้มนิ่มเต็มๆ พร้อมกับเสียงเอฟเฟ็คที่ตามมาเป็นเสียงหอมแก้มดัง “ฟอด” จางอูยองอ้าปากค้าง สติกระเจิงหายไปหมด หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจังหวะที่เร็วระรัวเหมือนจะระเบิด

“พรุ่งนี้เจอกันนะครับ” แล้วเดินจากไปปล่อยให้จางอูยองนิ่งค้างอยู่หน้าบ้านอย่างนั้น…

 นิชคุณหอมแก้มจางอูยอง หอมเต็มๆ เลยด้วย และคนที่อึ้งไม่ต่างจากอูยองก็คือจินยองที่แอบอยู่ตรงประตูบ้าน จินยองเห็นเต็มๆ พี่ชายตัวเองถูกเพื่อนหอมแก้ม เพื่อนพี่ชายที่พึ่งบอกกับจินยองตอนล้างจานเมื่อกี้ว่าไม่ใช่เพื่อนแต่กำลังจะเป็นแฟนของอูยอง… พี่จะจีบพี่ชายจินยองนะ 

พี่เขยรุกแรงจริงโว้ย หอมแก้มข้างหน้าบ้านเค้าเลยยยยยย ฮื้ออออออออ

.

.
20%

หายไปนานมาก ปิดเทอมรับจ๊อบหาค่าเทอมค่ะ ฮืออออ มาได้นิดเดียวเองอะ ช่างมานจะรีบมาต่อ ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ดราม่าเลยค่ะ คนพี่ก็รุกน้องแบบรุกหนักมาก คนน้องนางก็ไม่รู้เรื่องอะค่ะว่าพี่มันรุก ได้แต่คิดเองเออเองว่าคืออะไรนางไม่เข้าใจ เป็น sf สั้นๆ ไม่เกินห้าตอนค่ะ

มาต่ออีกนิดหน่อยนะคะ ลงในมือถือ อาจจะแปลกๆ หน่อย เดียวมาแก้ค่า

[OS] ไม่ได้ไล่ {khunwoo}

Pairing: KhunWoo
Rate: PG-15

.

.

.

.

.

“อย่ามาใกล้ผมนะ ออกไปห่างๆ เลย!!”

ใจแทบสลายครับ นิชคุณใจแทบสลาย… ตัวเล็กไล่ผม อ่ากกกก

เรียวแขนเล็กพยายามแกะมือปลาหมึกที่ติดหนึบอยู่กับตัวออกไป

“ปล่อยผม!! อย่ามาใกล้” อูยองโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง

เพราะอีกคนไม่ยอมปล่อยกันง่ายๆ วงแขนแกร่งโอบรัดคนตัวเล็กเข้ามาใกล้กันกว่าเดิม ใกล้จนสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งกำลังถูตรงต้นต้นคอเขาอยู่ รู้สึกระคายที่สุด

“ใจคอจะไล่กันอย่างเดียวรึไง?” น้ำเสียงน้อยใจถูกส่งออกมา ทำให้อีกคนหยุดอยู่นิ่งๆ ในอ้อมแขน

“…”  ไร้คำตอบ จางอูยองก้มหน้าลงแทบจะชิดอกเมื่อ อีกคนขยับหน้ามาใกล้ๆ ฝากลมหายใจร้อนๆ ไว้ที่ต้นคอ

“จะไล่อย่างเดียวเลยหรอครับ?” เมื่ออีกคนไม่ตอบขอใช้ไม้อ่อนเข้าอ้อนสักหน่อย เพราะนิชคุณจุดอ่อนของจางอูยองดี .. เพียงแค่คำว่าครับ อีกคนจะหยุดดื้อแล้วนิ่ง ถ้ายิ่งเป็นนะครับ อีกคนจะยอมทุกอย่าง… แต่นิชคุณก็ไม่ได้พูดบ่อยหรอกนะ ของดีต้องรอเวลา

“คุณ.. ปะ ปล่อยผมก่อน” มือเล็กๆ ก็แงะแขนออกอีกรอบ ก็อยู่ในสภาพแบบนี้มันเป็นภาวะเสี่ยงของจางอูยอง แล้ว ครับ ที่พูดออกมา อีกคนจะรู้ไหมว่าทำให้ใจเขาสั่นมากแค่ไหน… ไม่ได้ๆ จางอูยองแกอย่าใจอ่อน

“ไม่ปล่อย ไม่รู้รึไงว่าไม่ได้เจอกันตั้งนานมัน…” นิชคุณตัดบทพูดเสียดื้อๆ ทำเอาคนตั้งใจฟัง หัวเสียเล็กน้อย

“มันอะไร?” คิดอะไรก็พูดออกไปอย่างนั้น อูยองเป็นคนแบบนี้แหละ

‘ก็คนมันอยากรู้ก็ต้องพูดสิ จริงไหม?’

“อยากรู้?”

“ก็มันอะไรเล่า…” นิชคุณยิ้มกริ่มอีกครั้ง เขารักอูยองก็เพราะแบบนี้แหละ อูยองเด็กซื่อ ใบหน้าคมก้มลงไปกระซิบแผ่วเบาที่ข้าวหูเล็กๆ

“ก็มัน..คิดถึงครับ คิดถึงอูยอง คุณคิดถึงอูยอง” พูดจบก็ผละอ้อมกอดออกจากคนตัวเล็ก

จางอูยองรู้สึกเหมือนจะตาย.. หัวใจบ้านี่ก็เต้นจนจะทะลุออกมา ร่างกายเหมือนขยัยไม่ได้ นิชคุณทำให้เขาบ้า

อูยองยื่นนิ่งอยู่อย่างนั้น หน้าเหวอๆ ของอูยองมันน่ารักที่สุด ตาเล็กๆ ที่เบิกกว้าง ใบหูขึ้นสีแดง ยิ่งเป็นตรงแก้มยิ่งแดงไปใหญ่ จนอีกคนมายืนอยู่ตรงหน้าในระดับเดียวกันเป่าลมหายใจอุ่นๆ ข้างแก้งดัง “ฟอด” อูยองถึงรู้สึกตัว

“คุณ!” ขาเล็กๆ ก้าวถอยหลังจากอีกคน พร้อมกับถลึงตาใส่ ตาเล็กแค่นั้นยังจะมาทำตาดุ.. ‘น่ารักครับ มันน่ารัก’

มือหนาจับเข้าที่ข้อมือเล็กอีกครั้ง ก่อนที่อีกคนจะหันหลังสิ่งหนีเขาไป “อูยองอ่า อย่าทำแบบนี้กับคุณสิ”

“ทำอะไรเล่า! ไปเลย ไปไกลๆ คนบ้า!” อูยองตวัดตาเรียวเล็กสบเข้ากับตากลมโต ปากบางๆ ก็พ่นคำไล่ไม่หยุด พระเจ้าครับนิชคุณผิดอะไร? ตอบผมที

“เอะอะก็ไล่ เอะอะก็บอกให้ไปไกลๆ ทำไมครับ? คุณทำอะไรผิดหรอ?” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถาม ก็ไม่ได้เจอกันตั้งอาทิตย์นึง คิดถึงจนใจจะขาด พอรู้ว่าอูยองกลับมาจากปูซานเขาก็รีบมาหาทันที แล้วอีกคนก็มาไล่เขาแบบนี้ น้อยใจครับ น้อยใจ

“กะ ก็…” จางอูยองอ้ำอึ้ง จะตอบก็ตอบไม่ได้ รู้สึกผิดก็รู้สึกที่ไปตวาดใส่อีกคน ไม่ได้ตั้งใจเขาแค่ตกใจมากไปหน่อยแค่นั้นเอง

“โอเค ถ้าอยากให้ไปก็จะไป” นิชคุณผละมือออกจากอูยองก่อนจะหันหลังเดินกลับไป ดวงตาเรียวเล็กรื้นไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้

จางอูยองจะทำอย่างไรดี…

นิชคุณเดินออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าวก็สัมผัสได้ถึงแรงโอบกอดจากด้านหลัง พร้อมกับความชื้นแฉะ… อูยองร้องไห้

“ฮึก มะ ไม่ ฮึก ฮืออออ ไม่ได้ ฮือออ” เอาแล้วไงงานเข้า อูยองร้องไห้ นิชคุณรีบแกะมืออีกคนออกแล้วหันหลังกลับไปทันทีมือเล็กๆ จับชายเสื้อนิชคุณเอาไว้

“ฮึก ไม่ได้ ฮืออ ไม่ได้ไล่ให้ไปนะ ฮือ” น้ำตาอย่างกับเขื่อนแตก มือเล็กก็ยกเช็ดน้ำตาป้อยๆ

“มะ ฮึก ไม่ได้ไล่นะ ฮือ ไม่ได้ไล่ ฮือออ” มีแต่คำว่า ไม่ ไม่ได้ไล่ ออกมาจากปากของคนตัวเล็ก นิชคุณก็ไปไม่เป็นละงานนี้ มือหนายกขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้อูยอง

“ไม่ร้องนะครับ คุณไม่ไปแล้ว” รวบตัวอีกคนเข้ามาในอ้อมกอด ลูบผมสีดำเบาๆ ปลอบให้หยุดร้อง

ผ่านไปสักพักใหญ่เสียงร้องไห้ก็เงียบไป เหลือเพียงแค่เสียงสะอื้นเท่านั้น เสื้อยืดสีเข้มเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาและ… น้ำมูก

“ฮึก คุณไม่ไปแล้วนะ ฮึก ไม่ให้ไป” อูยองช้อนตาขึ้นมอง ใบหน้าเปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาแถมด้วยน้ำมูกเป็นพร๊อบเสริม

“ครับ ไม่ไปแล้ว” นิชคุณยิ้มตอบ เพียงแค่ได้ยินว่าไม่ไป รอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฎบนใบหน้ากลมๆ ของอูยอง รอยยิ้มที่นิชคุณตกหลุมรัก

นิชคุณค่อยเดินจับมือของอีกคนเข้าไปในห้องน้ำ จะให้จับมาฟัดทั้งๆ ที่มีคราบต่างๆ ก็ไม่ไหว ถึงแม้จะอยากฟัดเต็มทีก็ตาม อูยองเดินตามไปอย่างว่าง่าย ตอนนี้นิชคุณบอกอะไรอูยองก็ทำตามหมด บอกให้ล้างหน้าก็ล้าง บอกให้ไปนั่งดูหนังด้วยกันก็ไป

นิชคุณทิ้งตัวนั่งบนโซฟา ก่อนที่จะดึงอีกคนให้ลงมานั่งข้างๆ ได้เวลาสอบสวน

“อูยอง วันนี้ไล่คุณทำไมครับ คุณทำอะไรผิด” มือเล็กกุมมือใหญ่ไว้ก่อนที่จะพูดเบา

“ผม..ผม ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ห้ามโกรธผมนะ” จางอูยองไม่กล้าสบตานิชคุณเลย..

“ครับไม่โกรธ แต่บอกคุณหน่อยได้ไหมทำไมถึงไล่คุณแบบนั้น” น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถาม

“ก็ผม..ผม.. ก็.. คุณ มี..” น้ำเสียงเล็กๆ เอ่ยงุ้งงิ้ง อยู่คนเดียวไม่เป็นประโยค

“ทำไมครับ?” อูยองเงยหน้าขึ้นมาสบตานิชคุณก่อนที่จะบอกไปว่า

“ก็ผมตกใจนี่ คุณเข้ามาเงียบๆ แล้วก็มากอดผม แถมยังเอาหนวดมาถูๆ ผมอีก ผมไม่ชอบ คบกันมาตั้งนานไม่รู้รึไง ไม่ชอบอะหนวด ผมไม่ชอบ”

“ดูดิคอผมแดงหมดแล้ว” ว่าแล้วก็หันคอขาวๆ ให้อีกคนดู คอขาวๆ ที่มีแต่รอยแดงเพราะหนวดของนิชคุณ…

ตึกตัก ตึกตัก

‘เห็นคอขาวๆ ของอูยอง นิชคุณถึงกับอยู่ไม่เป็นสุข ทำแบบนั้นมันอ่อยไม่รู้หรือไง’ ใบหน้าคมก้มลงไปสูดความหอมจางซอกคออีกครั้ง

“คุณ!!!” อูยองมองตาเขียวปั้ด นิชคุณยกยิ้มเจ้าเล่ห์

“อย่านะ คุณ!!” อูยองโวยวายยกใหญ่ ทันทีที่นิชคุณกดเค้าลงนอนแล้วทับมาทั้งตัว

คนน่ารักมันน่าแกล้ง ขอแกล้งอีกสักนิด

“คนเถื่อน ปล่อย อย่านะ!” อูยองหดคอหนีทันทีเมื่อหนวดของอีกคนสัมผัสตรงต้นคอ อูยองไม่ชอบหนวด อูยองไม่ชอบก็เพราะเวลาโดนหนวดทิ่มทีไร ขนมันลุกไปทั้งตัวนี่ แล้วไอ้ที่รู้สึกแปลกๆ อีก เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้

หมัดเล็กๆ ทุบที่ต้นแขนนิชคุณเบาๆ น้ำตาคลอมาอีกรอบ

“ฮึก คุณ ไม่เอา” นิชคุณเลิกแกล้งทันทีก่อนจะฉุดอีกคนให้นั่ง

“ไม่ร้องนะครับ ไม่ร้อง คุณขอโทษ” นิชคุณรีบขอโทษก่อนที่เขื่อนจะแตกรอบสอง

“อย่าแกล้งนะ ฮึก ไม่ชอบหนวด”

“ครับ ไม่แกล้งแล้วถ้า..”

“ถ้าอะไรเล่า”

“ถ้ามีคนโกนหนวดให้” ตาเรียวเล็กเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ

“คนเถื่อนโกนคนเดียวเลย!”

“อ่า โอเค งั้นกลับละนะ” น้ำเสียงเจือด้วยความน้อยใจส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้

“ไม่ให้ไป เดี๋ยวโกนให้!” จางอูยองหลับหูหลับตาพูด

ภาพเหตุการณ์ในห้องน้ำคราวก่อนที่จะไปปูซานโผล่เข้ามา เขาโกนหนวดให้นิชคุณครั้งแรก แต่ดันทำมีดโกนบาดหน้านิชคุณ เขาไม่อยากโกนให้อีก อูยองไม่อยากทำให้นิชคุณเจ็บตัว… ก็เพราะรักถึงไม่อยากทำให้เจ็บ หน้าหงอยๆ ของอูยองแสดงออกมาอย่างเปิดเผย

ทำไมนิชคุณจะไม่รู้ว่าทำไมอูยองถึงไม่อยากจะโกนหนวดให้เขา… มีดโกนที่บาดคราวที่แล้วก็บาดนิดเดียวเลือดยังไม่ทันออกด้วยซ้ำ อูยองก็โทษตัวเองซ้ำๆ ว่าทำผมเจ็บ ผมไม่อยากให้อูยองคิดแบบนั้น เพราะถ้าเป็นอูยองผมยอมได้ทุกอย่าง

“อูยองครับ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ยิ้มให้คุณหน่อยนะครับ” คนตัวเล็กยังเงียบอยู่เหมือนเดิม

“อูยอง อย่าไปคิดถึงเรื่องนั้นสิครับ”

“ถ้าเป็นอูยอง จะบาดเป็นสิบที่คุณก็ไม่เจ็บ”

“อย่าพูดแบบนั้นนะ! คุณไม่เป็นผมคุณไม่รู้หรอก” อูยองเอ่ยสวนทันควัน.. บาดเป็นสิบๆ แผลงั้นหรอ

“คุณไม่รู้หรอก แค่เห็นคุณเจ็บแค่นิดเดียว ตรงนี้ของผมมันก็เจ็บไปหมดแล้ว” มือเล็กกุมที่หน้าอกข้างซ้าย ช้อนตาขึ้นมองหน้าอีกคน… เหมือนมีแรงดึงดูดให้นิชคุณเข้าหาจางอูยอง

น่ารักแบบนี้ถึงได้รักจนถอนตัวไม่ขึ้นไง

น่ารักแบบนี้จะไม่ให้รักได้ยังไง

ริมฝีปากหยักทับลงบนปากเรียวเล็กเบาๆ มอบจุมพิตที่เต็มไปด้วยความคิดถึงให้อีกคน ความหอมหวานถูกส่งผ่านเรียวลิ้นเข้ามาเพียงนิด ก่อนจะผละออก

“รักนะครับ รักอูยองนะ” ประทับรอยจูบลงไปอีกครั้ง ไม่เร่งรีบ ไม่รบเร้า ปล่อยให้ดำเนินไปตามใจตัวเอง เสียงริมฝีปากที่ประกบกันดังเป็นระยะ

“อื้อ” เสียงครางหวานประท้วงเมื่อมือหนาๆ เริ่มอยู่ไม่นิ่ง มือเล็กๆ จับข้อมืออีกคนไว้เป็นเชิงห้าม นิชคุณผละริมฝีปากออกมา ส่งสายตาอ้อนขอ… เขาอยากรักอูยอง

“ได้ไหมครับ”

“คุณ…” ใบหน้าหวานพยักเบาๆ เป็นเชิงว่า ได้ นิชคุณยิ้ม ช้อนตัวอีกคนให้นั่งลงบนตัก

“รักนะครับ”

.

.

.

ฝ่ามือร้อนค่อยหายเข้าไปภายใต้เสื้อเชิ๊ตสีขาวบีบผิวบางเบาๆ จนขึ้นรอย ปากหยักยังคงมอมเมาคนบนตักด้วยรสจูบที่วาบหวาม กระดุมเม็ดแรกถูกปลดออกด้วยมืออีกข้าง ตามมาด้วยเม็ดที่สองและสาม มือหนาค่อยๆ แหวกสาบเสื้อออกเผยให้เห็นไหล่เนียน ปล่อยให้เสื้อหมิ่นแหม่เผยแค่ช่วงไหล่และยอดอกสีหวานอยู่อย่างนั้น

“อ๊ะ” เสียงครางหวานผะแผ่ว ลอดออกมาจากปากบางๆ ทันทีที่โดนนิ้วยาวสะกิดยอดอก ใบหน้าคมผละออกลากเรียวลิ้นกดย้ำตรงแอ่งชีพจร ฝากฝังรอยกุหลาบไว้จางๆ สูดดมความหอมอ่อนที่ซอกคอ แล้วเลื่อนฝากรอยรักที่ไหล่ขาว

“อื้อ คุณ นะ หนวดมัน อ๊ะ” เสียงท้วงกระเส่าอยากร้องห้าม แต่ไม่สามารถเปล่งคำพูดออกมาได้ ขนลุกชันไปทั้งตัวเมื่อถูกหนวดคมๆ ลากผ่าน ไม่ว่าหนวดจะหยุดหรือลากผ่านตรงไหนมันก็ทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

“คุณ หนวด อ๊ะ หนวดมัน อื้อ”

“รู้สึกดีใช่ไหม?” ทำไมนิชคุณจะไม่รู้ว่าอูยองไม่ชอบหนวดเพราะอะไร… ตอนมีหนวดแล้วทำแบบนี้กับอูยองทีไร เจ้าตัวจะอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ แถมออฟชั่นเสริมเป็นเสียงครางหวานดังๆ และเขาเป็นคนข้างล่าง

“คุณ ยะ อย่า” พูดยังไม่จบมือหนาก็วางตรงกลางลำตัว ค่อยๆ รูดซิปออก เผยให้เห็นสิ่งที่ซ้อนเร้นไว้ข้างในว่าตอนนี้สิ่งนั้นต้องการให้เขาช่วย ความต้องการคับแน่นภายใต้ชั้นในสีขาว

“รู้สึกดีใช่ไหมครับ?” กระซิบถามที่ใบหูเล็กสีแดง ส่งลมหายใจอุ่นๆ แกล้ง แล้วขบเม้นเบาๆ ใบหน้าหวานพยักหงึกๆ

“ยกตัวหน่อยนะครับ คนเก่ง” สะโพกเล็กยกขึ้นเปิดโอกาสให้อีกคนปลดสิ่งกีดขวางของทั้งคู่ออก กางเกงยีนส์แล้วชั้นในถูกถอดค้างไว้เพียงแค่ข้อเท้าข้างซ้ายของคนตัวเล็ก และของอีกคนก็ถอดกองทิ้งไว้ที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง กดสะโพกเล็กลงบนหน้าขาแล้วมอบจุมพิตให้กันอีกครั้ง ส่วนอ่อนไหวถูกความอุ่นร้อนกอบกุมไว้ก่อนจะค่อยๆ ชักนำอารมณ์ของอีกคนให้นำหน้าไปก่อน

“อ๊ะ อื้ออ คุณ อ๊ะ” จากจังหวะเนิบช้าในคราแรกกลายเป็นจังหวะที่เร็วมากขึ้น ใบหน้าหวานซบลงบนไหล่หนาปล่อยเสียงหวานที่สั่นพร่ายิ่งได้รับสัมผัสจากหนวดคมยิ่งเสียงดัง ยิ่งเร้าใจยิ่งครางกระเส่า… มือหนาเร่งหวะให้เร็วขึ้นแข่งกับเสียงหวานๆ ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่ไหว อ๊ะ คุณ อ๊า” น้ำสีขาวขุ่นเลอะเต็มฝ่ามือ เปื้อนเสื้อยืดที่อีกคนใส่นิดหน่อย ดวงตากลมโตจ้องร่างเล็กนั่งที่หอบอยู่บนตักปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์

ตาเขาบ้างละ

“อูยองอ่า คุณไม่มีแรงแล้วครับ ช่วยคุณหน่อยนะครับ…นะ” น้ำเสียงอ้อนของนิชคุณ กำลังขอตัวเล็กให้ช่วย… ตาเรียวเล็กเบิกกว้างขึ้น ก่อนจะมองหน้าคนตัวโต… รู้ใช่ไหมว่าอ้อนแบบนี้แล้ว อ้อนท่าไหน

ไม่มีแรงที่ไหน เขาต่างหากที่ไม่มีแรงแล้วเนี่ย

“ไม่เอา!! เหนื่อย อ๊ะ” ร่างเล็กสะดุ้งเมื่อมือหนาปลุกความต้องการขึ้นมาอีกครั้ง นิชคุณยิ้มกริ่มมองอูยอง

“คุณ อื้อ” ตาเรียวเล็กหวานเยิ้มจ้องมองหน้าคนเอาเปรียบ บางบางเม้มเหยียดเมื่อเรียวนิ้วยาวเข้าแทรกเข้าทางด้านหลัง ให้คนตัวเล็กปรับตัวกับสิ่งที่จะใหญ่กว่านี้

“นะครับ คุณเหนื่อย นะ” นิ้วเรียวเพิ่มจำนวนขยับเข้าออกมากขึ้นทำให้ประสาทการรับรู้เริ่มเลอะเลือน อูยองพยักหน้ารับคำของอีก… เมื่อถูกจุดกระสันร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว พึมพำเรียกชื่อนิชคุณไม่หยุด

“อ๊ะ คุณ คุณ”

แบบนี้ก็เข้าทางคุณสิครับ

เมื่อร่างเล็กเริ่มปรับตัวได้ สิ่งที่ใหญ่กว่าก็เข้ามาแทนที่ สะโพกกลมขยับยกอยู่อย่างนั้น ตาเรียวหลับพริ้มรับสัมผัสที่โหยหานานนับอาทิตย์ ปล่อยให้ร่างกายทำตามที่หัวใจต้องการ

นิชคุณบอกว่าคิดถึงเขา… ก็ไม่ต่างกัน อูยองคิดถึงนิชคุณไม่แพ้กัน

ขอใช้ช่วงเวลาตอนนี้ทดแทนช่วงเวลาที่หายไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ก็แล้วกัน
.
.
.
END

Note. กลับมาแกล้งเด็กด้งโดยคนเถื่อนมีหนวดละคะ ทำได้แค่นี้ อาจจะไม่ดีเท่าไหร่เอาเป็นว่าฟินๆ กันนะคะ คือกลับบ้านมาพอดีเลยมีเวลาว่าง เอาเป็นว่าไม่ได้ไล่ก็จบลงไปด้วยดีแล้วเนอะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกะนนะคะแล้วก็ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ ♥️ ที่จริงไม่คิดเลยว่าจะมีคนเม้นด้วย เราไม่ซีเรียสเรื่องเม้นเลยคะ เพราะเราก็เขียนได้ไม่ดีเท่าไหร่ กะว่านี่เป็นคลังเก็บเท่าที่ตัวเองจะสามารถกลั่นกรองออกมาได้ ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้านะคะ จุบๆ

[OS] แกล้ง {khunwoo}

Pairing: KhunWoo
Rate: NC

note: รอบนี้ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า เรื่องที่แต่งขึ้นใตอนนี้นั้นแต่งเพราะอยากอ่านเอ็นซีคุณด้ง เค้าเลยแต่งสนองนี้ตัวเอง อาจจะดวกๆ ภาษาไม่สวยเท่าไหร่ เป็นเอ็นซีล้วนๆ ไม่มีเรื่องไม่มีราวอะไรเกริ่นทั้งนั้น อาจมีคำผิดหรือคำที่ขัดหูขัดตา ต้องขอโทษจริงๆ นะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า ต่อจากนี้อาจจะไม่ได้มาลงบ่อยเพราะจะมิดเทอมแล้ว ขอบคุณสำหรับคอมเม้นด้วยนะคะ เอ็นจอยรีดดิ้งค่า

.

.

.

.

.

ร่างกายเปลือยเปล่าท่ายถอดความอบอุ่นให้แก่กันและกัน เรียวลิ้นเล็กดูดดึงหยอกล้อกับลิ้นหนา แลกเปลี่ยนรสชาติน้ำใสที่หอมหวานภายในโพรงปาก ฟันคมขบลงที่ริมฝีปากล่างของคนตัวเล็กเบาเบา ก่อนจะผละออก

“อ๊ะ”

เสียงครางหวานผะแผ่วหลุดรอดออกจากปากบางที่แดงช้ำจากฝีมือของใครอีกคน นัยตาหวานฉ่ำเยิ้มจากอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้น สัญชาตญานภายในจิตใจเรียกร้องให้อีกฝ่ายสัมผัสมากขึ้น

‘แกล้งกันใช่ไหม ได้’

ลิ้นชื้นของคนตัวเล็กแตะลำคอหนา ขมเขี้ยวเล็กๆ ขบกัดฝากรอยรักสีกุหลาบเอาไว้ ตวัดเรียวลิ้นผ่านแผ่นอกแกร่งไล้เลียวนรอบยอดอกสีเข้ม เรียกเสียงครางทุ้มออกมา มือเล็กลากผ่านกล้ามท้องลงไปยังความเป็นชายที่ตอนกำลังตื่นตัวเต็มที่ กอบกุมแท่งร้อนที่ขืนสู้มือ นิ้วโป้งนวดคลึงหัวสีแดงสดที่เริ่มมีน้ำใสปริ่มออกมา เรียวลิ้นเล็กละจากยอดอกมาละเลียดชิมแก่นกายในมือแทน

“อืมมม”

เสียงครางทุ้มแสดงความพึงพอใจดังออกมา ทันทีที่ปากบางได้ครอบครองความเป็นบุรุษเพศ

“อาาา”

เสียงครางทุ้มลอดออกมาอีกครั้งเมื่ออีกคนเร่งเร้าจังหวะให้เร็วขึ้นอีก

“อูยอง อืมมมมม”

มือหนากระชับใบหน้ามนให้รับสัมผัสที่เร็วขึ้นจากสะโพกแกร่ง เสียงดังอู้อี้ประท้วงในลำคอ แต่ก็ยังไม่หยุดกิจกรรมครั้งนี้ จนกระทั่ง

“อ่าา”

“แค่กๆ”

น้ำสีขาวขุ่นพ่นออกมาเต็มปากบางแบบไม่ทันตั้งตัว เสียงไอโคลกดังขึ้นมา ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากของตนก่อนที่จะเบะหน้าง้ำงอให้อีกฝ่ายเห็น เมื่อรู้ตัวว่าควบคุมตัวเองไม่ได้เผลอปล่อยออกโดยไม่บอก

“อูยอง พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจนะครับ”

“….”

เรียวแขนยกขึ้นกอดอกพร้อมกับมองหน้าคนที่ปล่อยน้ำรักให้เขาสำลักโดยไม่บอกกล่าวอย่างคาดโทษ

“อูยอง พี่คุณขอ..”

“พี่คุณ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นเลย!! วันนี้ฟังคำสั่งของผมอย่างเดียว!!”

‘ได้ยินอย่างนี้ เข้าทางนิชคุณสิครับ น้องบอกจะออกคำสั่งเอง… พี่คุณยอมอูยองครับ ทำอะไรตามสบายเลย’

เรือนร่างบางอรชร ค่อยๆเยื้องย่างเข้าหาไอร้อนจากกายหนา สายตาซุกซนเจ้าเล่ห์ จ้องมองดวงตาคม ช่างเย้ายวนชวนให้สัมผัส..

“พี่คุณ หิวไหมครับ?”

อูยองกระซิบบอก ขบเม้มใบหูเบาๆ ส่งความชื้นผ่านลิ้นน้อยๆ ไล้วนทั่ว สะโพกนั่งที่นั่งทับกลางลำตัวขยับเบาๆ ไม่เร่งเร้า แต่สามารถกระตุ้นความต้องการของนิชคุณขึ้นมาได้อีกครั้ง ปากบางดูดเม้มสันกรามสวยลงมาต้นคอ ฝากฝังรอยคมเขี้ยวไว้บนอกแกร่ง มือเล็กลูบผ่านรอยขบแผ่วเบาแล้วฝังรอบจูบลงไปอีกครั้ง พร้อมกับลิ้นเล็กที่ออกมาสะกิดยอดอก สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ถูกระทำได้เป็นอย่างดี เมื่อทนเสียงเรียกร้องภายในใจไม่ไหวเสียงทุ้มแทบพร่าเอ่ยตอบถึงความต้องการของตัวเอง

“หิวครับ อืม พี่หิวมากเลยครับ”

แก่นกายที่แสดงความเป็นบุรุษเพศค่อยขืนตัวขึ้นมาสู้สะโพกน้อยที่ขยับเร่งจังหวะ รอยยิ้มหวานถูกส่งผ่านมาให้นิชคุณ พร้อมกับใบหน้าที่ค่อยๆ ขยับใกล้เข้ามา ลมหายใจสัมผัสลมหายใจ..

“งั้นก็….”

อูยองลากเสียงยาว เว้นจังหวะให้ได้ยินเสีบงหัวใจที่กำลังเต้นโครมคราม

ตื่นเต้น นิชคุณตื่นเต้น มีเพียงไม่กี่ครั้งที่อูยองจะยั่วยวนเขาแบบนี้ เป็นความรู้สึกที่เขาชอบเหลือเกิน ลูกเจี๊ยบน้อยจอมยั่ว

สายตาจดจ้องราวกับจะกลืนกินทั้งตัวให้หมดสิ้น เร่งเร้าเอาคำตอบ

“กินผมหน่อยนะครับ… พี่คุณ”

ไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ ปากหยักก็รีบเคลื่อนเข้าหาความหวานจากปากบาง เรียวลิ้นเกี่ยวหวัดแลกเปลี่ยนความรู้สึกหวาบหวามกันอีกครั้ง แขนเล็กรั้งต้นคออีกคนให้เข้ามาปรับองศาให้มีพื้นที่ในการสัมผัสมากขึ้น ร่างกายขยับเข้าเบียดใกล้ชิดกันรับรู้ถึงความตื่นตัวของทั้งคู่ ฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังเคลื่อนผ่านหนาท้องแบนราบ ลงมากอบกุมแก่นกายสีหวานที่กำลังสั่นระริกรอรับการสัมผัส

” อื้อ”

เสียงครางอู้อี้ในลำคอถูกส่งลอดผ่านออกมาทั้งๆ ที่ริมฝีปากยังไม่ผละออกจากกัน มือที่กอบกุมเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้น สร้างความรัญจวนให้คนตัวเล็กสะท้าน เสียงหายใจหอบโยนเหมือนแทบจะสูบวิญญาณออกไปจากร่าง ทันทีที่ผละห่างจากความหวานของโพรงปากบาง ฝากเสียงดัง จุ๊บไว้ที่ริมฝีปากล่างของอูยอง ก่อนที่จะเคลื่อนมาดูดดึงเม็ดลูกกวาดสีหวานที่ล่อตาล่อใจให้ลิ้มรส ใช้ปลายนิ้วคลึงเบาๆ ที่ยอดอกอีกข้าง

“อ๊ะ ตรงนั้น พี่คุณ อ๊ะ”

เสียงครางผะแผ่ว ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ที่ใกล้ถึงฝั่งฝัน มือหนาลูบไล้ผิวเนื้อเนียนละเอียดที่ขาอ่อนค่อยๆ จับให้แยกห่างออกจากกัน ก่อนที่จะละใบหน้าโน้มลงมาตรงกลางลำตัว…

“อา พี่คุณ ไม่เอา อะ มะ ไม่อม อื้อออ”

ไม่ทันได้ห้ามความชื้นก็เข้าครอบครองละเลงลิ้นเล่นกับส่วนหัวสีหวาน แผ่นหลังเล็กแทบล้มตึงลงไปทันทีที่ลิ้นร้อนเริ่มละเลง เรียวขาขาวแหวกออกให้กว้างขึ้น มือเล็กยันพื้นเตียงเพื่อทรงตัวให้อยู่ ส่วนอีกข้างขยุมผมสีน้ำตาลเข้มเอาไว้

“พะ พี่คุณ อ๊ะ ไม่ไหว ฮึก”

ปากหนาผละออก แล้วใช้เพียงมือขยับขึ้นลงสานต่อความต้องการของอูยอง ปลายนิ้วยกขึ้นนวดคลึงหัวสีสดที่น้ำเริ่มไหลปริ่มออกมามากขึ้น

“อะไรนะครับ?”

นิชคุณแกล้งแหย่นิดหน่อย เพียงแค่ต้องการเห็นเด็กน้อยอ้อนขอให้เขาช่วยสานต่อความต้องการให้เสร็จสม เพราะอูยองน่ารัก น่าแกล้ง

‘ผู้ใหญ่นิสัยไม่ดี แกล้งอีกแล้ว อูยองจะดื้อ’

ตาเรียวเล็กตวัดขึ้นมองอีกครั้ง เว้าวอนอ้อนขอ แต้ส่อแววรั้น น้ำตารื้นเล็กน้อยเพราะสิ่งที่ต้องการกำลังจะตีตื้นขึ้นมา แต่หากถูกหยุดให้ค้างอยู่อย่างนั้น

” เอา มือ ออก ไป.. ”

น้ำเสียงหวานแหบเอ่ยบอก อุตส่าห์จะได้เป็นคนสั่งแต่ก็มาอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟเพียงแค่โดนสัมผัสเนื้อกายจากอีกคน

ร่างสูงยังคงนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ฉายแววเจ้าเล่ห์ผ่านรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนตกหลุมรักเขานิชคุณ

คนตัวเล็กยันตัวนั่งตรงขึ้นแล้วปัดมืออีกคนออก แล้วใช้มือของตัวเองสานต่อสั่งที่ค้างอยู่ ใบหน้าอูมหวานซบลงตรงซอกคอหอมกลิ่นบุรุษ กลิ่นที่กระตุ้นความต้องการ กลิ่นที่คุ้นเคย  แล้วเสียงครางดังระงมมาอีกครั้ง…

‘เข้าทางนิชคุณสิครับ อูยองงอนแล้วทำแบบนี้ โอ้ยย นิชคุณคลั่งครับ เด็กน้อยกำลังเล่นกับตัวเองอยู่บนตักของผม… แบบนี้นานๆ ทีจะมีครั้ง นิชคุณขอเสพสมทางสายตา… ก่อนที่จะ… เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกันนะครับ’

“อ๊าาาาา”

สุ่มเสียงแห่งความสุขสมดังออกมาพร้อมกับของเหลวข้นที่เปรอะเต็มมือน้อยมีบางส่วนที่เลอะหน้าท้องแกร่ง ร่างเล็กหอบหายใจแรง เหมือนจะเหนื่อยอ่อนแต่ไม่ใช่ มือเล็กที่ยังสะอาดรั้งคอหนาลงมาให้รับสัมผัสจูบแผ่วเบา ก่อนที่จะฝากฝังรอยคงเขี้ยวไว้ที่ริมฝีปากล่างให้พอได้กลิ่นคาวสนิมของเลือด มือหนาลูบไล้สะโพกบีบหนักบ้างเบาบาง นิ้วเรียวยาวค่อยแทรกเข้าไปในช่องทางด้านหลัง เข้าไปได้เพียงนิด กลับถูกดึงออกด้วยมือของอีกคน

“คืนนี้ ผมจะทำเอง พี่คุณอยู่นิ่งๆ ไปเลย ห้ามขัดผมด้วย ถ้าขัดผมจะหยุด”

‘คำขู่ช่างน่ารักเหลือเกิน ถ้าขัดจะหยุด คิดหรอครับนิชคุณจะไม่ทำครับ คอยดูก็แล้วกันจะแกล้งให้หมดแรงเลย…’

นิชคุณพยักหน้าตอบรับเป็นเชิงให้รู้ว่าตกลง

ร่างบางนั่งชันเข่าเล็กน้อย แล้วดันนิชคุณให้นอนลงไปมือบางที่มีคราบสีขาวขุ่นค่อยๆ เอื้อมไปทางด้านหลังชำแรกเรียวนิ้วเข้าสู่ทางรักสีหวานส่วนมืออีกข้างก็ดันอกอีกคนเพื่อทรงตัว ใบหน้าหวานสะบัดแหงนหงาย ปางบางเผยอครางแผ่วเบา

” อื้อ ”

แล้วขยับจังหวะนิ้วให้เข้าออกตามความต้องการของตัวเอง ตากลมโตจ้องมองอูยองยามขยับเรียวนิ้วเข้าออกทางด้านหลัง ความเป็นชายตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้ถูกสัมผัสแต่ภาพข้างหน้ามันช่างเย้ายวนให้เขาอยากกลืนกินอูยองเหลือเกิน

“อ๊ะ”

ร่างบางแทบทรุดเมื่อแตะโดนจุดสร้างความสุขสมให้แก่ตัวเอง ดวงตาฉ่ำเยิ้มค่อยๆ จ้องมองขึ้นสบกับดวงตากลมโต เรียวนิ้วขยับเข้าออกอยู่อย่างนั้น พร้อมกับแก่นกายสีหวานที่ตั้งชูขึ้นมาอีก น้ำใสๆ เริ่มไหลเยิ้มออกจากมุมปากที่อ้าเผยอปล่อยเสียงออกมาเป็นระลอก เป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่งและเป็นภาพที่นิชคุณเห็นเพียงคนเดียว อยากจะถอดเรียวนิ้วออกแล้วสอดแทรกตัวเองเข้าไปแทนที่ใจจะขาด… ความคิดยังไม่ทันจะหายไป มือน้อยๆ ที่ขยับเข้าออกก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่แท่งร้อนที่ขืนสู้

“อึก”

“อืม”

ช่องทางรักสีหวานค่อยๆ กลืนกินเข้าไปช้าๆ ดวงหน้าหวานสะบัดเชิดทันทีที่โถมตัวเข้าหาแก่นกายร้อนจนสุดทางแช่ค้างไว้สักพัก เพราะรู้สึกเจ็บ มันใหญ่และคับแน่น…

หัวใจนิชคุณเต้นโครมครามในอก เมื่อช่องทางรักบีบแก่นกายเขาเสียแน่น ทนไม่ไหวแล้ว นิชคุณกระแทกตัวสวนขึ้นไป

“อ๊ะ พี่คุณ ผม จะหยุดนะ ถ้าทำอีก”

ร่างบางสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนที่จะสานต่ออีกครั้ง สะโพกมนเริ่มขยับตอบรับแก่นกายร้อนที่อยู่ในตัว เป็นจังหวะเนิบช้าแต่หนักหน่วง ขยับไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปลายแท่งร้อนเสียดสีโดนจุดกระสัน อูยองแทบทรงตัวไม่ได้ นิชคุณเห็นอย่างนั้นก็ทนไม่ไหวแล้ว มือหนาค่อยๆ ยกขึ้นกอบกุมสะโพก ช่วยสานต่อจังหวะที่ยังค้างคา ร่างสูงลุกขึ้นนั่งช้าๆ ดึงดวงหน้าหวานเขามาพรหมจูบ เปลี่ยนจังหวะที่เนิบช้าให้ค่อยๆ เร็วขึ้น พร้อมกับสติน้อยๆ หลุดลอยไปเหลือเพียงแต่ความต้องการทางอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ

“พะ พี่ อ๊ะ พี่คุณ”

“อืมม อูยองอ่าา”

เสียงกายเนื้อที่กระทบกันดังระงมทั่วห้อง พร้อมกับกลิ่นกายที่อบอวลไปทั่ว หัวใจเต้นสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกัน บทรักที่ร้อนแรง หนักหน่วงค่อยๆ พาความต้องการให้พุ่งทะยานสูงขึ้น

“อ๊ะ ผม มะ อ๊ะ ไม่ไหว อื้อออ”

“อืมม อูยอง พี่ก็ไม่ อ่า ไม่ไหว พร้อมกันนะครับ”

จังหวะรักดำเนินมาถึงจุดที่ทั้งคู่ต่างสุขสมที่สุดแล้ว ความต้องการต่างพวยพุ่งออกมา

“พี่คุณ อื้ออ”

“อูยอง อ่า”

คราบน้ำรักเปรอะเต็มหน้าท้องแกร่ง พร้อมกับความอุ่นร้อนที่ฉีดพ่นเข้าทางรักสีหวาน

ร่างเล็กอ่อนแรงซบลงบนลาดไหล่ลมหายใจหอบถี่ ช่องทางที่สอดใส่ยังคงบีบรัดยิ่งคับแน่น ถึงแม้จะได้ปลดปล่อยในกายหวาน แต่ความต้องการของนิชคุณมันคงยังไม่พอ

” พี่คุณ!! ”

แก่นกายร้อนแข็งขืนขึ้นอีกครั้งก่อนกระแทกเข้าในทางรักที่ฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำของเขา รอยยิ้มกรุ้มกริ่มเผยออกมาจากปากหยัก ดวงตากลมโตฉายแววเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะกระตุ้นคนตัวเล็กให้รู้สึกเหมือนกับเขา

ถึงแม้ว่าจะปล่อยออกมามาก แต่ความต้องการของนิชคุณยังไม่หมดลง ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นกลิ่นเฉพาะของอูยอง ยิ่งได้สัมผัสผิวสีขาวน้ำนมนุ่มๆ มองเห็นสายตาที่จ้องมองด้วยความรัก นิชคุณยิ่งอยากสัมผัส อยากครอบครอง… ใช่เขามันไม่รู้จักพอ ถ้าคนนั้นเป็นอูยอง เขาต้องการมันทั้งหมด อยากสัมผัสไปทุกส่วน อยากแต่งแต้มความเป็นเจ้าของ อยากทำไปสะทุกอย่าง

อูยองเป็นของนิชคุณ… ของนิชคุณคนเดียว

“อ๊ะ พี่คุณ…”

เสียงครางหวิวทันทีที่สะโพกหน้ากระแทกสวนขึ้นอีกครั้งและอีกครั้ง ดวงหน้าหวานกลับขึ้นสีแดง ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยความต้องการที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งจากคนตัวสูงที่เขานั่งอยู่บนตัก ปากบางเผยอหอบรับลมหายใจอุ่นร้อนที่ประกอบลงมาอีกระลอก ก่อนจะแปรเป็นเสียงครางหวานให้อีกคนได้ฟังไปทั้งคืน

“พี่คุณ…ณ อื้ออออ”

.

.

.

.

end

[OS or SF ?] เด็กแว่น {KhunWoo}

Pairing: KhunWoo
Rate: PG-13

วันแรกที่ผมเจอกับเขา เป็นวันที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไร ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งก็เท่านั้น แว่นทรงคุณปู่หนาเตอะนั่นมันยิ่งทำให้ผมหมดความสนใจ ท่าทางซื่อๆ ใสๆ มันก็ดูไม่แตกต่างจากใครเท่าไหร่ ก็แค่เด็กผู้ชายทั่วไป แต่ผมมองเขาเปลี่ยนไปหลังจากวันนั้น

วันที่ผมได้สบตาใกล้ๆ วันที่ผมได้สัมผัสลมหายใจของเขา

ผมพึ่งรู้ว่าภายใต้กรอบแว่นมันมีบางสิ่งซ่อนอยู่เพียงแค่รอยยิ้มจากเขา มันก็ทำให้หัวใจของผมกระตุกวูบ

น่ารักชะมัด

ความคิดของผมในตอนนั้น น่ารัก เขาน่ารักมาก จากที่ไม่เคยสนใจเขา จากเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เขากลายเป็นคนพิเศษของผม และเขาเป็น

“ตัวเล็กของผม”

เหตุการณ์ในวันนั้นผมยังจำได้ดี วันที่เห็นใบหน้าที่แสนจะน่ารักของเขาที่ซ่อนไว้ภายใต้กรอบแว่นนั่น

.
.
.

ภาพของเด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งที่ใส่แว่นหนาเตอะยกกองสมุดสูงเกือบมิดใบหน้า ก้าวขาเดินไปข้างหน้าอย่างทุลักทุเล ใครเห็นภาพนี้ก็คิดว่ามันตลก ก็เพราะเป็น จางอูยองไง เพราะเป็นอูยองทุกอย่างรอบๆ ตัวมันถึงได้ดูตลกไปหมด ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนซื่อๆ พูดตรงๆ คิดอะไรก็พูดออกไป บางครั้งคำพูดมันก็ตรงจนเกินไป ตรงจนกลับมาทำร้ายตัวเอง สำหรับเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรแบบนี้อยู่แล้ว โดนแกล้งมาตั้งแต่เด็ก เขาชินกับการถูกแกล้ง

วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เขาถูกทำซ้ำๆ เหมือนเดิม การบ้านกองโตของเพื่อนๆ เขาต้องเป็นคนหอบมาส่งทุกครั้ง เพราะหากเขาไม่ทำ สมุดการของเขาถ้าไม่ถูกฉีก หรือทำให้เปียกน้ำ มันก็จะหายไป เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทุกคนถึงทำแบบนี้ เขาไม่อยากโต้ตอบเพราะรู้ดีว่ายิ่งทำเหมือนยิ่งยุให้ถูกแกล้งมากกว่าเดิมอีก

“ตุ่บ” ขณะที่กำลังก้าวเดินไปขาเล็กๆ ก็สะดุดเข้ากับสิ่งกีดขวางข้างหน้าอย่างจัง กองสมุดที่หอบมากระจายหมด พร้อมกับแว่นทรงคุณปู่หลุดหายไป ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด แต่กลับได้ยินเป็นเสียงหัวเราะคิกคักจากรอบข้างดังมามากกว่า

‘โดนแกล้งอีกแล้วสินะ’

มือเรียวเล็กควานสะเปะสะปะเพื่อหาแว่น
“แกร่บ” เสียงแตกหักของบองสิ่งดังขึ้นก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะมาอีกครั้ง มือเล็กๆ รีบควานหาแว่นแล้วก็พบว่ามันหักไปแล้ว เขาจะมองเห็นได้ยังไง
อูยองเป็นเด็กสายตาสั้น ถึงสั้นมากๆ แว่นจึงกลายเป็นอวัยวะที่สามสิบสามไปโดยปริยาย แล้ววันนี้จางอูยองจะเรียนยังไง การบ้านจะเอาไปส่งยังไง

เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของอีกคนมาตลอด… ตั้งแต่อีกคนเดินมาจนถึงตอนนี้ ทั้งตอนที่โดนขัดขา ทั้งตอนที่โดนเหยียบแว่น ก็แค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกแกล้ง เขามักจะเห็นภาพของเด็กคนนี้ถูกแกล้งบ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่สนใจ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขา แต่วันนี้เหมือนมันจะเป็นเรื่องที่เกินไปกว่าทุกวัน กองสมุดที่กระจัดการะจายบนพื้น ไหนจะแว่นที่หักอีก ยิ่งเห็นเด็กคนนั้นทำท่าเหมือนจะร้องไห้คนอย่างเขาก็ไม่อยู่เฉย

ร่างสูงรีบรุดเดินไปใกล้คนตัวเล็ก ค่อยๆ ก้มเก็บสมุดรวมกันไว้ บรรยากาศรอบข้างเหมือนหยุดหมุน เสียงหัวเราะหายไปพร้อมกับทุสายตาจดจ้องมาที่เขากับอีกคน รวมถึงดวงตาเรียวเล็กที่คลอไปด้วยน้ำตาคู่นั้นด้วย … ก่อนที่จะส่งยิ้มจางๆ มาให้.. หัวใจของเขากระตุกวูบทันทีที่เห็นรอยยิ้มนั้น รอยยิ้มจากเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เขาไม่สนใจ รอยยิ้มบนใบหน้าหวานที่ปราศจากแว่นทรงคุณปู่

ไม่มีบทสนทนาใดๆ ระหว่างเขาสองคน กองหนังสือตอนนี้ถูกคนตัวโตกว่าหอบไว้ครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่คนตัวเล็ก มือหนากุมรอบมือบางก่อนที่จะจูงให้อีกคนเดินตามมาด้วย…

หัวใจดวงน้อยรับรู้ถึงแรงเต้นที่มันผิดจังหวะของตัวเอง…มันเต้นแรงจนรู้สึกได้

“นายจะไปส่งเอาไปปส่งที่ไหน?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม นี่เป็นประโยคแรกที่คนตัวโตเป็นคนเอ่ยถาม

“ผะ ผม จะเอาไปส่งที่ห้องพักอาจารย์ปาร์คครับ” คนตัวเล็กเอ่ยตอบเบาๆ
อูยองเสียงได้ยินซุบซิบระหว่างทางที่เขาเดินไปกับผู้ชายอีกคนตลอดทาง

‘นั่นมันรองประธาน’
‘แก ไอ่เด็กแว่นนั่นนี่’
‘ทำไมมาเดินด้วยกันอะ’

อูยองได้แต่เดินตามคนข้างหน้า ไม่ได้เก็บคำพูดที่ได้ยินมาใส่ใจ ก็โดนแบบนี้บ่อย มันชินไปแล้ว… แต่ที่ไม่ชินก็มี.. อย่างตอนนี้ไงตอนที่มีใครสักคนเดินข้างๆ ใครสักคนที่กุมมือกัน อูยองไม่ชิน

ความร้อนถูกส่งผ่านมาที่ข้อมือมันทำให้เขารู้ว่าที่รู้สึกอยู่มันไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นเรื่องจริง

“ขออนุญาติครับ ผมเอาการบ้านมาส่ง”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะวางการบ้านลงและเอาการบ้านที่อูยองถือวางลงไปด้วย แล้วก็จูงคนตัวเล็กออกไปอีกครั้ง จางอูยองตอนนี้ก็ทำอะไรไมถูก ได้แต่เดินตามอีกคนไปก็เท่านั้น

เวลาผ่านไปสักพักจางอูยองก็มาถึงที่หมายที่อีกคนพาเขามา เขาไม่รู้ว่าอีกคนพามาที่ไหน มันค่อนข้องมืด แต่ก็ตามมาแล้วแถมยังไม่ขัดเขาอีก ก็ต้องเลยตามเลย มองก็ไม่เห็น ไม่มีแว่นเหมือนชีวิตมันทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ

“เอ่อ คือ คุณครับ ที่นี่ที่ไหนครับ?” อูยองถามอีกคน

“…” ไร้สัญญาณตอบรับจากอีกคน

“คุณครับ ที่นี่ที่ไหน?” น้ำสียงเริ่มสั่นเครือ เขามองไม่เห็น เขาไมรู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน

‘คุณคนนั้นก็คงจะแกล้งเราอีกคนสินะ’

คนตัวเล็กค่อยๆ นั่งลงกับพื้น แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลลงมาจาตาเรียวเล็ก จางอูยองกำลังร้องไห้

‘มาทำดีด้วยแล้วมาแกล้งกันแบบนี้ มันรู้สึกแย่ยิ่งกว่าการถูกแกล้งทุกครั้งอีก’

ทันทีที่เห็นน้ำตาของอูยองร่วงลงมา คนที่กำลังแกล้งนึกสนุกกับใบหน้าที่แสดงออกมาอย่างเปิดเผยของอูยอง ตั้งแต่เขาช่วยเก็บสมุด เดินไปส่งการบ้านด้วยกัน จนถึงตอนนี้ ไม่มีแว่นปกปิด ทั้งสายตาและความรู้สึก อูยองแสดงมันออกมาทั้งหมด แต่มันไม่สนุกแล้ว เขาแค่อยากรู้ว่าอูยองจะทำอย่างไรก็แค่นั้น…ไม่คิดว่าจะร้องไห้

คนตัวสูงรีบเขาไปหาอูยอง แล้วย่อตัวลงตรงหน้า ความรู้สึกอุ่นถูกส่งผ่านเรียวนิ้วซับน้ำตาบนใบหน้าเบาๆ

“ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้กลัว” คำขอโทษถูกส่งผ่านออกมา

“ฮึก ผะ ผมไม่ได้ ผม ฮึก ผม ฮือออออออออออ” จากที่มีแค่เสียงละอื้นตอนนี้กลายเป็นว่าอูยองร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก

‘เอาแล้วไง ทำเขาร้องไห้หนักกว่าเดิม’

คนตัวสูงได้แต่คิด ก่อนที่จะตัดสินใจกอดอีกคนเพื่อปลอบ อ้อมแขนแกร่งกระชับขึ้นอีก พร้อมกับพูดขอโทษซ้ำๆ ย้ำ อย่างนั้น

‘ไม่น่าแกล้งเลย เห็นน้ำตาละยิ่งใจอ่อนไปอีก ยิ่งรู้สึกผิดไปอีก’

เสียงร้องไห้ค่อยๆ เบาลง ดวงตาเรียวเล็กเงยขึ้นสบตากับดวงตากลมโต.. ภาพข้างหน้ามันเบลอ มันไม่ชัด.. แต่อูยองรับรู้ถึงสัมผัสที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“คิก” เสียงหัวเราะเล็กๆ หลุดออกมา เสียงหัวเราะของจางอูยอง ถึงจะมองไม่ค่อยเห็นแต่สิ่งที่เขาคิดตอนนี้คือมันตลกน่าดู

“หัวเราะ?”

“ฮึก ครับ คิก” จางอูยองหัวเราะออกมาอีกครั้ง

“มันน่าตลกตรงไหน?” จะไม่ให้ตลกได้ไงก็คนที่มาช่วยเขาก็แกล้งเขาจนร้องไห้ กลับมาปลอบเขา

“ก็คุณช่วยผม แกล้งผม แล้วก้ปลอบผม ผมว่ามันตลก” ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตา กำลังพูดด้วยรอยยิ้ม อูยองคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น

น่ารักชะมัด

เสียงหัวเราะคิดคักของคนตัวเล็กดังอยู่อย่างนั้น หัวใจของอีกคนกระตุกไหววูบอีกครั้งพร้อมกับจังหวะของหัวใจที่เริ่มผิดแปลกไป มันเต้นแรง แรงจนเหมือนจะทะลุออกมาให้ได้

‘จางอูยอง นายกำลังทำให้ฉันรู้สึกบ้า’

อูยองสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่กำลังใกล้เข้ามา เสียงหัวเราะเงียบหายไป กลายเป็นความเงียบพร้อมกับเสียงหัวใจสองดวงที่กำลังเต้นในจังหวะเดียวกัน มือหนาจับที่ปลายคางเบาๆ

“ปัง” เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น

“ไอ้คุณ มึง กูได้ข่าวมาว่า..า..” เสียงตะโกนเรียกชื่อของคนตัวสูงดังขึ้น คนที่เข้ามาใหม่ถึงกับอึ้ง ภาพตอนนี้ที่เห็นคือ เด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งที่นั่งกับพื้นโดยที่มีเพื่อนของเขากำลังจับปลายคาง ใบหน้าห่างกันเพียงนิด

‘ไอ่คุณณณณณณณณณณ มึงงงงงงงงง ไอ่คุณณณณณณณณณณณณ’

note

สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ ต้อนรับวันแห่งความรักกับเด็กแว่นกันเถอะะะะ

ทั้งหมดแต่งเพื่อสนองความต้องการของตัวเองล้วนๆ มันอาจจะมีต่อหรืออาจจะมีแค่นี้แล้วเป็นอย่างอื่นแทน หรืออาจะหมดแค่นี้

ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังด้วยคะ ฮือออออ ทำได้แค่นี้จริงๆ มีโอกาสจะมาแกล้งเด็กด้งอีกครั้ง และหวังว่าจะมีการกลั่นแกล้งเด็กครั้งต่อไปอีก (บอกตัวเองไว้) 🙂

[OS] คนน่ารัก มันน่าแกล้ง {khunwoo}

Pairing: KhunWoo
Rate: PG-13

.

.

.

“ถอดแว่นของนายออก มันเกะกะ ฉันไม่ถนัด”

“คือ ผม ผมไม่ถอดได้ไหม?”

“ก็บอกแล้วไงมันเกะกะ ฉัน จูบ นาย ไม่ ถนัด
น้ำเสียงพูดเน้นทีละคำ ฉัน จูบ นาย ไม่ ถนัด ทำให้คนที่ฟังใจเต้นระรัว

ก็เขาไม่อยากถอดนี่นา

“ก็ผมไม่อยากถอดนี่!”

“ทำไมละ?  ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ถนัด ทำไมชอบขัดฉันอยู่เรื่อย!”

“กะ ก็ ถ้าผมถอด มัน ก็  มัน…”

มือหน้าค่อยๆ เชยใบหน้าที่ก้มลงแทบจะชิดอกขึ้นมาให้สบกับดวงตาคู่กลมโต ดวงตาที่สะกดทุกคนให้อยู่ภายใต้อำนาจของเขา ก่อนที่จะกระซิบข้างใบหูเล็กๆ ที่ขึ้นสีแดง

“มันอะไรละ หืม?”  แล้วก็  “ฟู่วว” เป่าลมร้อนใกล้ๆ แกล้งหยอกคนตัวเล็กให้อายมากขึ้น

‘ก็คนมันน่ารักน่าแกล้ง’

“มันอะไรละครับ หืม?” คำพูดอ่อนหวานเพียงคำเดียว ครับ คำที่ไม่เคยได้ยินจากคนขี้แกล้ง ทำเอาคนฟังไปไม่ถูก แก้มที่แดงก็แดงขึ้นไปอีก

ริมฝีปากบางขยับพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด

“ถ้าผมถอด ก็มองไม่เห็นหน้าคุณสิครับ”

ถึงแม้น้ำเสียงจะแผ่วเบา แต่มันก็ดังก้องในหัวใจของคนฟัง

“ไม่ต้องก็ได้ แค่รู้สึกถึงฉันก็พอ” มือหนาค่อยๆ ถอดแว่นออก แว่นที่บอกว่าเกะกะ ค่อยโน้มใบหน้าเรียวเข้าหา ประกบริมฝีปากกันเบาๆ ซ้ำๆ ย้ำๆ ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นความหวานในโพรงปาก และความอบอุ่นในหัวใจ ….

คนตัวเล็กทุบอีกคนให้รู้ว่าตัวเอวกำลังหายใจไม่ออก ผละออกจากกันเพียงนิดให้อีกคนได้หายใจ ก่อนที่จะมอบความอุ่นร้อนให้อีกครั้ง…

‘ก็คนน่ารักมันน่าแกล้งนิครับ’

แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไปตามความต้องการของทั้งคู่ จะจบลงที่จูบหรือจะดำเนินต่อ ก็ตามใจคนขี้แกล้งก็แล้วกัน

.

.

.

.

END

note: วันชอตสั้นๆ หนึ่งหน้ากระดาษเอสี่ ไม่ได้เขียนดีเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยนะคะ

[OS] คำว่า “รัก” {khunwoo}

Pairing: KhunWoo
Rate: unknow

.

.

.

.

.

รัก คำคำเดียวที่ยึดติดผมกับเขาไว้ด้วยกัน

รัก คำคำเดียวที่ไม่สามรถทำให้ผมหลุดพ้นจากเขาได้

เพียงแค่ รัก ที่ไม่ใช่ ความรัก แต่เป็นรักที่เปี่ยมไปด้วยความต้องการทางร่างกาย

ผมหยุดตัวเองไม่ได้อีกแล้ว รักคำเดียวที่เขาบอกผม รักเท่านั้นพอ

กลิ่นกายหอมสะอาด บริสุทธิ์ได้กลิ่นคราใด ใจผมมันเรียกร้องและต้องการที่จะเสพสมกลิ่นนั้น เหมือนกัญชาชั้นเลิศเมื่อได้ลิ้มลองยากที่จะถอนตัว แววตาสุกใสเปล่งประกายไหวระริกยามเมื่อผมจับต้องสัมผัส เชื้อเชิญให้ผมเผยความต้องการออกมาและปลดปล่อยความรู้สึกที่ถวิลหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียวปากบางที่พรั่งพรูน้ำเสียงหวานหูราวกับดนตรีขับกล่อมให้ผมทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมชอบคำขอร้องอ้อนวอนเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้เมื่อผมหยุด ผิวขาวเนียนละเอียดลื่นมือกับร่างบาง ผมอยากจะเสพสมในความสุขสมกับเจ้าของร่างกายนี้ เพียงแค่ขยับกายเคลื่อนไหวในจังหวะเดียวกับผม ทั้งตัวและใจของผมก็ถูกเผาให้มอดไหม้เป็นธุลี ช่างเร่าร้อนเกินจะหลีกหนี

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นเขามันยั่วเย้าให้ผมถลำลึก ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นเพียงแค่คำนี้ รัก

“พี่คุณครับ ช่วยรักผมที”

.

.

.

.

.

.

รัก คำคำเดียวที่เอื้อนเอ่ยเพื่อเสพสมความสุขทางกาย

รัก คำคำเดียวที่ต่างฝ่ายต่างดิ้นรนเพื่อครอบครองกันและกัน

ทุกครั้งที่ผมพร่ำบอกคำว่ารักกับเขามันเหมือนกับยิ่งฉุดให้ผมตกลงไปในหลุมที่ผมขุดขึ้นเอง รักที่มีพันธะทางกาย หาใช่ทางใจไม่
ผมไม่สามารถหยุดตัวเองได้แล้ว เพียงแค่เขาขอรักผม

กลิ่นกายที่คุกรุ่นผสมกลิ่นไอร้อนจากร่างกาย ทำให้ประสาทการรับรู้ของผมปั่นป่วน ควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายขยับตามแรงกระทำที่เขามอบให้ สายตาที่กำลังแผดเผาผมด้วยแรงปรารถนา ร่างกายผมร้อนรุ่มทุกครั้งที่แววตานั้นฉายเงาของผมอยู่ ผมแทบหลอมละลายไปกับสายตาคู่นั้น น้ำเสียงทุ้มละมุนเฝ้าคอยบอกผมเสมอ เขาจะอ่อนโยน ชื่อของผมถูกเอื้อนเอ่ยนับครั้งไม่ถ้วน มันทำให้ผมแทบจะต่อต้านเขาไม่ได้ สัมผัสจากเรียวปากทั่วอณูบนร่างกาย ไม่สามารถปฏิเสธได้ เหมือนผมกำลังล่องลอยในอากาศดุจดั่งผีเสื้อนับร้อยตัวบินวนเวียนทั่วร่าง รู้สึกดี ดีมากเกินไป

สิ่งที่เค้าทำกับผม ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ ลุ่มหลงมัวเมาจนยากที่จะถอนตัว เพราะ รัก คำเดียว

“ให้พี่รักเราได้ไหม อูยอง”

.

.

.

.
END

note: ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันนะคะ เป็นเรื่องแรกที่เขียนเลย อาจไม่ดีเท่าไหร่ ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ งมหาวิธีลงนานมากค่า กว่าจะลงได้ น้ำตาแทบเล็ด